วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มาทำไวท์เค้ก กันเถอะ

มาหัดทำเค้กกันดีไหมค่ะ ตามประสา ศิลย์ไม่มีครู (จริงๆ อยากไปลงครอสทำเบเกอรี่กับเค้าบ้าง แต่ ต้องต้องมีเวลาตรงกับที่เค้าเปิดสอนด้วย เลยใช้วิธีลองผิดลองถูก หัด ทำไปเรื่อย หวังว่าสักวันจะทำเป็นและชำนาญขึ้นได้ในไม่ช้า น่ะค่ะ

วันนี้ปอยเลือกทำเค้กจากแป้งผสมสำเร็จตรา ซุปเปอร์ม้อยซ์
มาเริ่มกันเลยนะคะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
http://picasaweb.google.co.th/PoyMumJ/171009?authkey=Gv1sRgCMb0hO6Swo3PXQ#5393854148045064658

1.แป้งเค้กสำเร็จรูป ซุปเปอร์ม้อยซ์ สูตรไวท์เค้ก
2.ไข่ไก่ (เอาเฉพาะใข่ขาว) 3 ฟอง
3.น้ำมันพืืช 3/4 ถ้วยตวง
4.น้ำ1 1/4ถ้วยตวง
5.พิมพ์เค้กทรงสูง ขนาด 8 นิ้ว (3ปอนด์)

วิธีทำ ง่ายๆ easy easy  (ทำตามที่ข้างกล่องบอกได้เลย)
Tips ร่อนแป้งเค้กสำเร็จอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ส่วนผสมกระจายตัว และไม่จับตัวเป็นก้อน หรือเม็ดแป้ง ช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีขึ้น


Tips วิธีแยกไข่แดงออกจากไข่ขาว ถ้าจะให้ง่าย ควรนำไข่ไก่ไปแช่เย็นก่อน

Tips สำหรับสปองจ์เค้ก ไข่ไก่ที่ใช้ต้องสด และ หากนำออกมาจากตู้เย็นต้องทิ้งไว้ให้อยู่ในอุณหภูมิห้องเสียก่อน ไม่อย่างนั้นเค้กที่อบออกมาจะเป็นไตได้ค่ะ

Tips สำหรับสปองจ์เค้ก แม่พิมพ์ที่ใช้ต้องสะอาดไม่มีไขมันนะคะ ถ้าไม่แน่ใจ ให้นำพิมพ์ไปลวกน้ำร้อนก่อนก็ดีค่ะ ไม่ต้องรองกระดาษไขค่ะ

(โดนมาแล้ว ไม่รู้ว่าสปองจ์เค้ก กะ เค้กเนยใช้ไข่ไก่คนละอย่างถ้าเป็นเค้กเนยต้องใช้ไข่ไก่เย็น)

Tips สำหรับการอุ่นเตา ต้องอุ่นให้ได้อุณหภูมิที่กำหนดตามตำราก่อน ไม่เช่นนั้นเค้กจะหน้าแตก หรือ ไหม้ หรือไม่สุกได้ค่ะ 55555 เพราะเพิ่งเจอกะตัวเอง ก็คราวนี้ไง มีข้อผิดพลาดนิดหน่อยค่ะ ระหว่างการอบเตาอบอุณหภูมิยังไม่คงที่ เพิ่มไป 370 F แถมอบนานเกินไป ตั้ง 45 นาทีแหน่ะค่ะ
หน้าตาเลยออกมาอย่างที่เห็น




ยังดีนะที่พอทานได้แม้จะแห้งไปสักหน่อย แต่ก็ขาว เนื้อเค้กไม่ค่อยละเอียดนัก เพราะปอยไล่ออกอากาศออกน้อยเกินไป ใช้วิธีเคาะพิมพ์กับโต๊ะเบา เท่านั้นเอง พี่แอ๋มข้างบ้านบอกว่าต้องเอาไม้จิ้ม ฟอกอากาศจะได้ไม่ใหญ่เป็นโพรงมากเกินไป

Tips วิธีเช็คเค้กว่าสุกหรือเปล่า ก็เอาไม้จิ้มตรงกลางเค้ก ถ้าไม่มีเศษเค้กติด หรือ ไม่แฉะเป็นอันว่าสุก

Tips ระหว่างอบ อย่างเปิด - ปิด บ่อยจะทำให้เค้กไม่ฟู หรือ ยุบ ไม่สุกได้นะคะ

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มาหัดทำเบเกอรี่กันเถอะ

สำหรับท่านที่ไม่มีพื้นฐาน หรือ ไม่เคยได้เรียนทำเบเกอรี่มาก่อน ลองเริ่มจากแป้งสำเร็จรูปก่อนดีไหมจ๊ะ เพราะไม่ยุ่งยาก เครื่องมือก็ไม่มากมายอะไร หาซื้อแป้งสำเร็จรูปได้ตามร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปได้เลยจ้า เลือกขนมที่ชอบก่อนจะได้มีแรงบันดาลใจไง

ส่วนอุปกรณ์เบเกอรี่ หรือ เกร็ดความรู้ พื้นฐานต่างๆ คงต้องศึกษาหาอ่านตามเว็บไซต์
ส่วนตัว ปอยก็หาจากgoogle นี่แหละค่ะ อาทิwww.tipfood.com/2009/ 


ทำแล้วเป็นไง ก็มาเล่าสู่กันฟัง กันได้นะจ๊ะ

จุดเริ่มต้น ของการทำเบเกอรี่


จุดเริ่มต้นจริงๆ มาจากคุณแม่ของสามีซื้อเตาอบไฟฟ้าแบบมีฝาครอบมาใช้ ยี่ห้อ Grand fisc  เค้าบอกว่าเตาอบนี้สามารถทำเค้กได้ ส่วนตัวเป็นคนชอบทาน Brownie อยู่แล้วก็เลย ไปหาซื้อแป้งบราวนี่เค้กสำเร็จรูปมาหัดทำเอง แล้วก็ซื้อ ช็อกโกแลตอัลมอนต์สำเร็จของยูไนเต็ดมาแต่งหน้า

ส่วนอุปกรณ์ ก็มีแค่   1. ตะกร้อมือ 150 บาท 2. พายยาง 15บาท 3.พิมพ์เค้ก 80 บาท 4. กระดาษไข แค่นั้น

อ่านข้างกล่องแล้วก็มั่วนิ่มไป ผลน่ะหรอ 5555 เนื้อแน่นปั๊กเยยยย แต่พี่แอ๋ม พี่ข้างบ้านบอกอร่อยแต่แน่นไปอาจจะเป็นที่ตีไข่ไม่ขึ้นฟู หรือตีแป้งไม่เนียน หรือ ตีนานอันนี้ ไม่ทราบ รู้แต่ว่า ฮาาาาา สุดๆๆ

จะว่า ปลื้มกับคำชมว่า อร่อยไหม บอกได้เลยว่า  ไม่ เพราะ ไม่ได้ปรุงเองไง ผสมอย่างเดียว คือมันรสชาติมาตราฐานอยู่แล้วอ่ะ แต่ออกมาดูเกือบไม่ได้เยยยย

ต่อมาด้วยความเมตตาจากพี่แอ๋ม เค้าก็เลยให้ยืมเครื่องตีไข่ ทีนี้ก็เลยดีมาหน่อย แต่ไม่ดีที่สุด มารู้เคล็ดลับภายหลังว่า อ่างผสมเค้าไม่ใช้พลาสติกกัน  เลยต้องซื้อ อ่างผสมสแตนเลส มาอีก 1 ใบ ราคา 140 บาท
ว้าว!  หลังจากนั้นก็เรียกได้ว่าสำเร็จไปอีกขั้น ชักอยากลองทำขายดู ก็เลยไปซื้อพิมพ์มาเพิ่มอีก 3 อันx80 บาท (ขนาด 8*8*1.5)กิจการดูเหมือนจะไปได้สวย แต่แล้ว พอสิ้นเดือน ค่าไฟออกมา จากเดิม 350 บาท ไม่เกิน 400 บาท เพิ่มเป็น 790 บาท ตั้งเท่าตัว คำนวณรายได้ กับค่าใช้จ่าย เป็นอันว่า เดือนนั้นขาดทุนด้านวัตถุ แต่คิดไปคิดมาก็กำไรชีวิต จากไม่คิดว่าจะทำเค้กได้ ก็ทำขายเป็นล่ำเป็นสัน มันไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะความอยากมันครอบงำ หนังสือเบเกอรี่สรรหามาอ่าน

ลองทำไปทำมา ก็ตัดสินใจซื้อเตาอบแก๊ส ขนาด 1 ถาด ของโรงงานกล้วยน้ำไท (เมื่อ 5/2/2551)นี่ก็ใช้มาปีกว่าเกือบ 2ปีล่ะ เตาขนาดเนี้ยทำเค้กก็พอไหว แต่ทำขนมปัง แป้งโด รอเตาจนขึ้นไม่รู้จะขึ้นยังไง ตอนนั้นทุนมีจำกัด เลยเลือก ขนาดถาดเดียว  (นี่ถ้าใครคิดจะซื้อเตาอบ คงต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ของตนเองก่อนว่า จะซื้อมาใช้ส่วนตัวทำทานเอง หรือหวังผลกำไรทางธุรกิจ)

แต่ยอมรับนะ ว่าการทำเบเกอรี่นั้นสนุก มีความสุข เพลิดเพลิน มาก ยิ่งถ้าทำออกมาดีสำเร็จสวยงาม ตามมาด้วยคำชมในรสชาติ ก็สุดแสนจะปลื้ม แต่ถ้าครั้งไหน เละ ล่ะก็ เซ็งสุดๆๆ

อ่านบทความแล้วอยากทำเบเกอรี่ดูบ้างไหมล่ะคะ

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

Back forest cake and Brownie cake (เค้กในความทรงจำ)


black forest cake ที่เรียกว่า เป็นเค้กในความทรงจำ  ก็เพราะว่า เวลาที่ปอยนึกถึง TVC ของไก่ย่างห้าดาวเมื่อหลาย 10 ปีก่อน มโนภาพเค้กหน้าตาหน้ากิน เชอรี่แดงบรรจงวางอยู่บนวิปปิ้งครีมขาวนุ่มโรยหน้าด้วยช็อกโกแลต ก็ผุดขึ้นมาทันที ตอนนั้นไม่รู้หรอกค่ะ ว่ามันมีชื่อว่า black forest cake โอ้โห ! ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยได้ลิ้มชิมรสมันเลยสักครั้ง ก็เลยฝังใจอ่ะ ด้วยความที่เป็นคนชอบกินช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ ก็อดนึกถึงเค้กอีกอย่างหนึ่ง ไม่ได้นั่นก็คือ
   
Brownie cake ชอบมั่กมากๆๆๆๆๆ  จำได้ว่าสมัยอยู่ ป.3 ซื้อกินชิ้นละ 3 บาทเองอ่ะ พอต่อมาขึ้นชั้น ม.1 ด้วยความที่เป็นคนชอบทานเค้ก ก็เลยหารายได้พิเศษด้วยการรับเค้กมาขายซะเลย (พอดีแม่เพื่อนเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่ )ขายวันละถาด ถาดละ 100 ชิ้น 3 บาทเองจริงๆ นะ อร่อย หอม นุ่ม สวย น่ากินที่สุด ตอนนั้นที่โรงเรียนเค้ามีโครงการให้นักเรียนจัดตั้งบริษัทจำลอง หัดทำธุรกิจ ประกอบอาชีพอิสระน่ะ เลยเข้าทาง ขายอยู่หลายเทอมเหมือนกันนะ พอเรียนจบ มาอยู่ ปวช. ก็ รับมาขายบ้างตามโอกาส แต่ไม่เคยนึกเคยฝันเลยนะ ว่าวันหนึ่ง จะได้มาทำเบเกอรี่กินเอง ขายเอง อย่างปัจจุบัน Amazing จริงๆ (เพราะแต่เดิมเป็นคนทำอาหารไม่เป็น กินเป็นอย่างเดียวอ่ะ ) เลยได้แนวคิดว่า "ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาแต่เกิด ไม่ลองก็ไม่รู้ "จริงนะ ตอนนี้ก็เลยเป็นแบบ อยากทำอะไรทำ ต้องลองจะดีจะเละบ้างก็เป็นครูอ่ะ เพราะค่าเรียนเบเกอรี่สถาบันใหญ่ๆ มันแพงไง เป็นหมื่นอ่ะ ครอสหนึ่งแต่ได้ข่าวว่าตอนนี้หลายสถาบันก็มีโปรโมทชั่นนะ ลดกระหน่ำมากเลย จากคอรส์ละ10,000 เป็น 5 ครอส 5,000 ครอสเดียว 2,000 ก็มีนะ อยากรู้ว่าที่ไหน คุยกันหลังไมค์นะจ๊ะ อิอิ  แต่ถ้าใครสนใจอยากเรียนเบเกอรี่ราคาประหยัด คุณภาพการันตี ถูกๆ ก็มีนะ อย่างของ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานไง ที่เชียงใหม่ ครอสละ 1,300 + 60 ค่าเอกสาร (ณ ตอนนี้นะอีกหน่อยไม่รู้ )ถ้าจำไม่ผิด


ถ้าใครอยากทำเค้กเป็น ก็ต้องลอง ลองดิ หนุกนะ นำขนมเค้กเนี้ย มีลุ้น มีเหนื่อย ทำเอง ล้างเอง จะได้ลิ้มหรือจะได้เละ ก็ต้องวัดกัน เพราะบางทีได้สูตรมา ทำไปแล้วออกมา กินไม่ได้ ก็มีนะ ต้องระวังพึ่งสังวรไว้ให้มั่น จะทำเค้กทั้งที ต้องมีสูตรดีและแม่นหน่อยนะจ๊ะ รวมทั้ง Tip ดีๆต้องคอยเรียนรู้เพิ่มเติม ต้องรู้ให้มากมันมีเทคนิคเยอะ มันต้องแลกมาด้วยประสบการณ์ทั้งจากตัวเองและผู้รู้ ที่อดีตก็ไม่รู้มาก่อน ต้องลองผิดลองถูกกันไปแหละ แบบว่า  เป็นห่วงน่ะ  สำหรับคนมือใหม่หัดทำเค้ก เดี๋ยวจะถอดใจซะก่อน เพราะนี่ก็เคย เกือบถอดใจมาแล้วหลายหน 5555 (อีกอย่างเครื่องไม้เครื่องมือ ทำเบเกอรี่นี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ นะจ๊ะจริงป่ะ )ปอยคิดว่านะ ถ้าใครอยากทำเบเกอรี่จริงๆ จะทำกิน จะทำขายก็แล้วแต่ อยากให้ไปลงเรียนดูก่อน ว่าชอบไหม รักไหม แฮปปี้กับมันไหม ถ้าไม่ ก็เหนื่อยนะ ของอย่างนี้ก็ต้องลองดู   สู้ๆๆนะจ๊ะ


ปล. ออกตัวไว้ก่อนนะคะว่าไม่ใช่มืออาชีพ ในด้านเบเกอรี่หรอก แต่เป็นคนหนึ่งที่เริ่มหัดทำเอง อ่านเอง เรียนรู้และหัดทำด้วยตัวเองมาก่อน บอกเล่าด้วยความหวังดี มิได้อยากโชว์พราวอะไรหรอกนะจ๊ะ และก็ขอน้อมรับคำสอน คำแนะนำจากผู้รู้ทุกท่านนะคะ ถ้ากรุณาก็ช่วยแนะกันได้นะคะ